Skip to main content

คู่มือเพิ่มยอดจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรม: กลยุทธ์และเทคนิค

  โพสต์ใน แหล่งข้อมูล   ปรับปรุงล่าสุด 2/04/2025

การจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรมคืออะไร?

การจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรม หมายถึงการที่แขกจองห้องพักผ่านช่องทางของโรงแรมโดยตรง ไม่ผ่านเว็บจองห้องพักหรือตัวแทนท่องเที่ยว การจองโดยตรงสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์โรงแรม โทรศัพท์ หรือติดต่อที่เคาน์เตอร์โรงแรมโดยตรง

ผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่ชอบการจองโดยตรง เพราะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง การจองตรงกับโรงแรมช่วยให้การสื่อสารดีขึ้น บริการได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น และมักจะได้กำไรมากกว่า เพราะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้เว็บจองห้องพัก

บทความนี้จะช่วยให้คุณค้นพบวิธีเพิ่มการจองโดยตรง และเข้าใจว่าอะไรที่มีผลต่อการตัดสินใจจองของลูกค้า

สารบัญ

ทำไมการจองโดยตรงถึงสำคัญสำหรับแขกที่เข้าพัก?

การจองห้องพักโดยตรงมีข้อดีหลายอย่างสำหรับแขก เช่น มีความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการจองมากกว่า และโรงแรมมักมีข้อเสนอพิเศษสำหรับการจองโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ถูกกว่า การอัพเกรดห้องพัก สิทธิประโยชน์พิเศษ หรือคะแนนสะสม นอกจากนี้หากมีข้อสงสัยหรือปัญหา แขกสามารถติดต่อกับโรงแรมได้โดยตรง ทำให้ได้รับบริการที่ดีกว่า

สรุปคือ การจองโดยตรงช่วยให้โรงแรมมีรายได้มากขึ้น ในขณะที่แขกก็ได้รับประสบการณ์การบริการที่ดีกว่า เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของโรงแรม

เพิ่มการจองโดยตรงได้อย่างง่ายดาย

ใช้ระบบจองที่ได้รับรางวัลและออกแบบมาให้เน้นมือถือเป็นหลัก ด้วยขั้นตอนการจองเพียงสามขั้นตอน การรวมเว็บไซต์ การประมวลผลการชำระเงิน และแอปปลั๊กอินที่ใช้งานร่วมกันได้

เรียนรู้เพิ่มเติม

การจองโดยตรงสร้างประโยชน์ให้โรงแรมอย่างไร?

การจองห้องพักโดยตรงช่วยเพิ่มรายได้และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ยิ่งมีแขกจองห้องพักผ่านช่องทางของโรงแรมโดยตรงมากเท่าไหร่ ยิ่งส่งผลดีต่อธุรกิจมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในด้านรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การจองโดยตรงไม่เพียงช่วยให้โรงแรมขนาดเล็กสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยตรง แต่ยังช่วยประหยัดค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้กับ OTA

นอกจากผลประโยชน์ด้านกำไรแล้ว ยังมีข้อดีอีก 6 ประการที่ทำให้การจองโดยตรงมีความสำคัญ:

1. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

ธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจบริการ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าทำได้ดีที่สุดผ่านการติดต่อโดยตรง ไม่ผ่านตัวแทนการจอง 

เมื่อลูกค้าจองโดยตรง โรงแรมจะมีข้อมูลและประวัติของแขกตั้งแต่แรก ทำให้สามารถดูแลและให้บริการลูกค้าได้ตรงใจตั้งแต่ต้นจนจบ

2. สร้างความประทับใจก่อนเข้าพัก

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับช่วงเวลาก่อนการเดินทางมากกว่าตอนเดินทางจริง การจองโดยตรงทำให้โรงแรมสามารถส่งข้อมูลและสร้างความประทับใจให้แขกได้ตั้งแต่ก่อนมาถึง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์

3. สร้างฐานลูกค้าประจำ

การรักษาลูกค้าเก่าประหยัดต้นทุนกว่าการหาลูกค้าใหม่มาก 

เมื่อแขกจองโดยตรง โรงแรมสามารถเก็บข้อมูลเพื่อส่งข้อความหลังการเข้าพัก แสดงความขอบคุณ และเชิญชวนให้กลับมาพักอีก 

นอกจากนี้ยังสามารถจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่เคยเข้าพักได้

4. รับฟีดแบ็คจากลูกค้าได้ดีขึ้น

ลูกค้าที่จองโดยตรงมักเป็นกลุ่มที่ตั้งใจเลือกโรงแรมของคุณมากกว่าการจองผ่าน OTA และมักเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับสไตล์ของโรงแรม ซึ่งมักจะส่งผลให้ได้รับคะแนนรีวิวที่ดีและสม่ำเสมอ

5. จัดเก็บและใช้ข้อมูลลูกค้าได้มากขึ้น

ยิ่งโรงแรมมีข้อมูลของแขกมากเท่าไหร่ ยิ่งสามารถสร้างประสบการณ์ที่ตรงใจได้มากขึ้นทุกครั้งที่กลับมาพัก ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการติดต่อโดยตรงตั้งแต่แขกเริ่มค้นหาข้อมูลโรงแรม

6. ประหยัดค่าคอมมิชชั่น OTA

เหตุผลที่พบบ่อยที่สุดคือการจองโดยตรงไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้ OTA ทำให้โรงแรมมีรายได้เพิ่มขึ้น 15-25% ต่อการจองแต่ละครั้ง

increase direct bookings
การจองโดยตรงช่วยเพิ่มรายได้และประสบการณ์ของผู้เข้าพัก | ดูตัวอย่างการใช้งาน

วิธีดึงดูดให้ลูกค้าจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรม

ในยุคที่แบรนด์และธุรกิจขนาดใหญ่มีบทบาทสำคัญ และทุกอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อความสะดวก ลูกค้ามักมองหาสิ่งที่แตกต่าง เห็นได้ชัดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Airbnb ประสบความสำเร็จอย่างมาก

นักท่องเที่ยวอาจเบื่อหน่ายกับการตลาดแบบเดิมๆ และประสบการณ์โรงแรมที่เหมือนๆ กัน พวกเขาต้องการความแปลกใหม่ ความเป็นตัวของตัวเอง และการบริการที่ใส่ใจเฉพาะบุคคล

ถ้าต้องการให้ลูกค้าจองโดยตรง สิ่งที่คุณนำเสนอต้องตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ มาดูกันว่าจะทำอย่างไร? ให้โรงแรมของคุณโดดเด่นและจูงใจให้แขกเลือกจองโดยตรงแทนการจองผ่าน OTA

1. รู้จักกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

ก่อนจะทำจุดขายให้โดดเด่น คุณต้องรู้ก่อนว่าลูกค้ากลุ่มไหนที่คุณต้องการและใครที่จะเข้ามาดูเว็บไซต์ของคุณ

เช่น Marriott รู้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ แคมเปญการจองโดยตรงของพวกเขาจึงเน้นนำเสนอประสบการณ์พิเศษที่จะได้รับจากการเข้าพัก

เมื่อเข้าใจกลุ่มลูกค้าหลักของคุณ จะช่วยให้คุณสร้างข้อเสนอที่ตรงใจพวกเขาได้

2. สร้างแรงจูงใจในการจองโดยตรง

การเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษเป็นวิธีที่ได้ผลในการดึงดูดให้ลูกค้าจองโดยตรง

จากการสำรวจพบว่า ครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวจะเลือกจองโดยตรงถ้าได้รับการอัพเกรดห้องพัก อันดับสองคือบริการรูมเซอร์วิสฟรี ซึ่งมีผู้สนใจเกือบหนึ่งในสี่

การเพิ่มบริการพิเศษแบบนี้มักไม่ได้เพิ่มต้นทุนมาก แต่สามารถจูงใจให้ลูกค้าจองโดยตรงได้ดี และถ้าคุณอัพเกรดห้องให้แขก คุณก็สามารถนำห้องมาตรฐานไปขายใหม่ได้ เท่ากับขายห้องได้สองครั้ง

3. สร้างจุดเด่นจากเสน่ห์ของโรงแรม

โรงแรมอิสระมีข้อได้เปรียบตรงที่มีกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นมากกว่าโรงแรมเครือใหญ่ๆ ลองใช้จุดนี้ดึงดูดลูกค้าผ่านเว็บไซต์ เช่น ที่พักของคุณอาจตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวดัง วนอุทยาน หรือเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีเรื่องราวน่าสนใจ

นำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ให้โดดเด่นบนเว็บไซต์ และอาจทำโปรโมชั่นพิเศษที่เชื่อมโยงกับจุดเด่นของโรงแรม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากจองโดยตรงกับคุณ

4. สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ

นักท่องเที่ยวที่เข้ามาดูเว็บโรงแรมต้องการสองอย่าง คือข้อมูลครบถ้วนและเนื้อหาที่น่าประทับใจ ถ้าคุณทำได้ทั้งสองอย่าง โอกาสที่เขาจะจองห้องกับคุณโดยตรงก็มีสูง

ลองทำวิดีโอแนะนำโรงแรม ไม่ต้องถึงขั้นคุณภาพหนังดัง แค่วิดีโอสั้นๆ ที่นำเสนอบรรยากาศดีๆ ของที่พักและทีมงานที่เป็นกันเอง

หรือถ้าอยากเพิ่มความน่าสนใจ อาจลองใช้เทคโนโลยี VR ให้ลูกค้าได้เห็นภาพจริงของโรงแรมแบบ 360 องศา เหมือนได้เดินชมสถานที่จริง ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ราคาไม่แพงเหมือนเมื่อก่อน และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

การเล่าเรื่องผ่านภาพมีความสำคัญมาก และการเลือกภาพที่จะใช้ก็สำคัญไม่แพ้กัน ภาพสวยๆ สามารถสร้างอารมณ์และกระตุ้นจินตนาการว่าเข้าพักแล้วจะเป็นยังไงซึ่งช่วยในการตัดสินใจของลูกค้าได้

จากสถิติพบว่า ภาพห้องพักเป็นสิ่งที่คนดูมากที่สุดบนเว็บโรงแรม ดังนั้นคุณควรนำเสนอภาพห้องพักที่สวยงามไว้ในจุดที่เห็นได้ชัดบนเว็บไซต์ เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างแรงจูงใจให้กดจอง

5. สร้างโปรโมชั่นที่แตกต่าง

แทนที่จะทำแค่ส่วนลดราคาห้องพักหรือแพ็คเกจทั่วไปที่ใครๆ ก็ทำ 

ลองคิดนอกกรอบว่าลูกค้าต้องการอะไรจริงๆ

ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตื่นเต้นกับทริปของตัวเอง แต่ถ้าต้องวางแผนทุกอย่างเอง ความตื่นเต้นอาจกลายเป็นความเครียดและความกังวล

ลองทำให้ง่ายขึ้นด้วยการเสนอแพ็คเกจทริปแบบจัดเต็ม เช่นแพ็คเกจสำหรับครอบครัว รวมตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ พร้อมคูปองทานอาหารที่ร้านอาหารของโรงแรม กิจกรรมสำหรับเด็กๆ เช่น พาไปสวนสนุกในขณะที่พ่อแม่ผ่อนคลายที่สปา

แพ็คเกจแบบนี้ไม่เพียงสร้างความแตกต่าง แต่ยังช่วยให้การวางแผนท่องเที่ยวง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าอยากจองกับคุณโดยตรงมากขึ้น

เพิ่มยอดจองโดยตรงด้วยบริการเสริม

บริการเสริมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มการจองโดยตรง เป็นผลดีทั้งสองฝ่าย: ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น โรงแรมก็ได้กำไรเพิ่ม

Tnooz เผยสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับบริการเสริมที่จะช่วยปรับกลยุทธ์การขายของคุณ:

  • 15% ของแขกจะซื้อบริการเสริมตอนจองห้องพัก
  • แขกที่จองล่วงหน้า 1-7 วัน มีโอกาสซื้อบริการเสริมสูงกว่าปกติ 3 เท่า
  • แขกที่จองล่วงหน้า 7-21 วัน มีโอกาสซื้อบริการเสริมสูงถึง 5 เท่า
  • กลุ่ม 1-2 คน มักสนใจบริการเสริมในโรงแรม เช่น ไวน์ หรืออาหารเช้าในห้องพัก
  • กลุ่ม 3 คนขึ้นไป มักสนใจกิจกรรมนอกโรงแรม เช่น ทัวร์ท่องเที่ยว ร้านอาหาร (แนะนำให้ร่วมมือกับธุรกิจท้องถิ่นเพื่อรับค่าคอมมิชชั่นจากการจอง)

ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า บริการเสริมไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นสิ่งที่คุณควรพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

นี่คือ 3 ไอเดียบริการเสริมที่น่าสนใจ:

1. บริการรับ-ส่งสนามบิน

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชอบใช้ขนส่งสาธารณะหรือเดินเที่ยวเมื่อถึงที่หมาย แต่การเดินทางจากสนามบินมายังโรงแรม ลูกค้าส่วนมากมักต้องการความสะดวกสบาย เมื่อคุณมีบริการรถรับ-ส่งสนามบิน ลูกค้าสามารถจองทุกอย่างได้พร้อมกันในครั้งเดียว ทำให้การเดินทางสะดวกและไร้กังวล

2. ของขวัญและบริการพิเศษ

ของขวัญและบริการพิเศษเป็นที่นิยมมากในกลุ่มแขกที่มาฉลองโอกาสพิเศษ คุณสามารถเสนอตัวเลือกที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเพิ่มตอนทำการจองเช่นแชมเปญต้อนรับ ผลไม้ท้องถิ่นสดใหม่ ไวน์จากไร่ในพื้นที่ 

3. ทัวร์และกิจกรรมท่องเที่ยว

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชอบจองทุกอย่างในที่เดียว การเสนอแพ็คเกจห้องพักพร้อมทัวร์หรือกิจกรรมท้องถิ่นจะตอบโจทย์กลุ่มคนที่ต้องการความสะดวก

นอกจากรายได้จากแพ็คเกจแล้ว คุณยังได้ค่าคอมมิชชั่นจากบริษัททัวร์ที่ร่วมมือด้วย เป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่และสร้างรายได้เพิ่มไปพร้อมกัน

ที่สำคัญ ลูกค้าจะได้ประสบการณ์ที่ดีทั้งการเข้าพักและการท่องเที่ยว

เพื่อให้การขายบริการเสริมมีประสิทธิภาพ ควรใช้ระบบจองห้องพักออนไลน์ที่ให้ลูกค้าเลือกซื้อบริการพิเศษเหล่านี้ได้ทันทีตอนจอง

increase direct bookings with smooth online process
นำเสนอส่วนเสริมด้วยระบบจองออนไลน์ของคุณเอง | ดูตัวอย่างการใช้งาน

ภาพสวยๆ ช่วยเพิ่มยอดจองห้องพักโดยตรง

รูปภาพสำคัญมากสำหรับการตัดสินใจจองห้องพัก ถ้าลูกค้าเห็นรูปไม่ชัด มีรูปน้อย หรือไม่มั่นใจในคุณภาพของโรงแรม โอกาสที่เขาจะจองกับเราก็แทบไม่มีเลย โดยเฉพาะถ้าโรงแรมไม่มีทั้งรูปและรีวิว นี่คือสัญญาณอันตรายที่ทำให้ลูกค้าลังเลมากที่สุด

ลูกค้าที่กำลังหาโรงแรมทางออนไลน์มักจะคิดว่า โรงแรมที่ไม่มีรูปหรือรีวิวอาจกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง เช่น บริการไม่ดี ห้องสกปรก หรือบอกทำเลไม่ตรงกับความจริง

จากข้อมูลของ TripAdvisor พบว่า โรงแรมที่มีรูปแค่ 1 รูป จะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากกว่าโรงแรมที่ไม่มีรูปถึง 138%

และที่น่าสนใจกว่านั้น โรงแรมที่มีรูปอย่างน้อย 1 รูป มีโอกาสได้รับการจองสูงกว่าถึง 225% ถ้าแค่รูปเดียวยังทำให้ต่างขนาดนี้ ลองคิดดูว่าถ้าเรามีรูปสวยๆ หลายๆ รูป จะช่วยเพิ่มยอดจองได้มากแค่ไหน

ตอนที่ลูกค้าเลือกโรงแรม เขาจะสนใจ 4 อย่างหลักๆ คือ ชื่อโรงแรม รูปภาพ ราคา และทำเล นั่นหมายความว่าเราต้องทำให้รูปสวยดึงดูดใจก่อนที่เขาจะไปอ่านรีวิว

มาดูเทคนิคการถ่ายรูปโรงแรมให้น่าสนใจกัน:

1. เน้นวิวสวยๆ ของโรงแรม

รูปที่ลูกค้าชอบที่สุดคือรูปห้องพักที่มีวิวสวย มีแสงธรรมชาติ มองเห็นทิวทัศน์สวยๆ เพราะช่วยให้เขารู้สึกอยากมาพักทันทีที่เห็นภาพ

ลูกค้าจะประทับใจมากถ้าเห็นวิวสวยๆ รอบโรงแรม เช่น ทะเล ตัวเมือง หรือสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ

2. โชว์จุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร

ถ้าโรงแรมเรามีอะไรพิเศษ เช่น สระว่ายน้ำวิวสวย สวนสวย หรือการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ให้เน้นถ่ายรูปจุดนี้ให้โดดเด่น เพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้าตั้งแต่แรกเห็น

3. ถ่ายรูปให้เป็นธรรมชาติ

ลูกค้าชอบรูปที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ปรับสี แต่งรูปมากเกินไป ถ้ารูปดูผิดธรรมชาติหรือแต่งมากไป ลูกค้าจะรู้สึกไม่ไว้ใจ เพราะกลัวว่าความจริงจะไม่ตรงปก

แนะนำให้ถ่ายรูปปกติ และไม่ต้องพยายามยัดทุกอย่างไว้ในรูปเดียว

4. รูปต้องคมชัด สะอาดตา

รูปห้องพักที่ลูกค้าชอบที่สุดคือรูปที่เห็นห้องเป็นระเบียบ สะอาด มีแสงสว่างพอดี และดูโปร่งสบาย ส่วนรูปที่ลูกค้าไม่ชอบคือรูปที่ห้องรก สีตกแต่งขัดกัน ถ่ายมุมแปลกๆ หรือไม่เห็นส่วนสำคัญของห้อง เช่น ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า

ถ้าเราใส่ใจเรื่องรูปภาพ และรักษาคุณภาพของการถ่ายภาพให้ดี รูปสวยๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มยอดจองห้องพักได้อย่างเห็นได้ชัด

10 กลยุทธ์เพิ่มการจองห้องพักโดยตรงสำหรับโรงแรม

การจองห้องพักโดยตรงเป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ประกอบการโรงแรม ยิ่งมีเปอร์เซ็นต์การจองผ่านเว็บไซต์โรงแรมโดยตรงมากเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น

การศึกษาอุปสรรคที่ทำให้ลูกค้าไม่จองตรง และสร้างกลยุทธ์แก้ไขเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง

ปัญหาทั่วไปที่พบ:

  • ค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและระบบจองตรง
  • การพึ่งพา OTA มากเกินไป
  • ต้นทุนการได้มาซึ่งลูกค้า (เช่น ค่าทำเว็บ และการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้)
  • ข้อจำกัดด้านทรัพยากรของโรงแรม

ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายโรงแรมไม่กล้าทำแคมเปญดึงลูกค้าให้จองตรง หรือสร้างฐานลูกค้าประจำ

แต่ยังมีวิธีดีๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าอยากจองตรงกับโรงแรมมากขึ้น มาดู 10 เหตุผลที่การจองตรงสำคัญ และวิธีที่โรงแรมควรทำ:

1. ดูแลลูกค้าตั้งแต่ก่อนเข้าพัก

พอลูกค้าจองกับเราโดยตรง เราต้องทำให้เขารู้สึกว่าตัดสินใจถูกแล้ว เริ่มจากทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกับทริปที่กำลังจะมาถึง เพราะหลายคนบอกว่าช่วงรอวันเดินทางสนุกพอๆ กับตอนได้ไปเที่ยวจริงๆ

วิธีง่ายๆ คือส่งอีเมลหาลูกค้าเป็นระยะ อาจจะบอกว่าเรารอต้อนรับ หรือแนะนำที่เที่ยว ร้านอาหารดังๆ แถวโรงแรมที่เขาไม่ควรพลาด

2. ลูกค้าที่จองตรงคือลูกค้าที่ชอบเราจริงๆ

จากสถิติพบว่า คนที่จองโดยตรงมักจะชอบโรงแรมมากกว่า เพราะเขาตั้งใจเลือกโรงแรมเราเอง ไม่ใช่แค่เจอในเว็บ OTA แล้วจองเพราะราคาถูก

ต่างจากคนที่จองผ่าน OTA ที่อาจจะแค่เจอโรงแรมเราโดยบังเอิญ พอมาพักแล้วอาจจะไม่ถูกใจ หรือให้รีวิวไม่ดี เพราะสิ่งที่เขาเห็นในเว็บ OTA อาจจะไม่ตรงกับที่พักจริง

แต่ถ้าใครตั้งใจจองกับเราโดยตรง แสดงว่าเขาชอบโรงแรมเราจริงๆ และมักจะมาพร้อมความรู้สึกดีๆ

3. นำค่าคอมมิชชั่นมาปรับปรุงบริการ

โดยปกติ ค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายให้ OTA เป็นเหตุผลหลักที่โรงแรมอยากได้การจองตรง เพราะถ้าลูกค้าจองกับเราโดยตรง เราจะประหยัดค่าคอมมิชชั่น 15-25% ต่อการจองแต่ละครั้ง

เราสามารถลดการพึ่งพา OTA ได้โดย รักษาราคาให้เท่ากันทุกช่องทาง เพื่อไม่ให้ลูกค้าคิดว่า OTA ถูกกว่าแสดงราคาอย่างโปร่งใสและชัดเจน คิดค้นวิธีใหม่ๆ เพื่อดึงดูดให้คนมาจองที่เว็บเราโดยตรง

ดูแลลูกค้าที่จองตรงเป็นพิเศษ เพื่อให้กลับมาจองซ้ำ

4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มการจองตรง

สิ่งที่ต้องทำคือ เก็บข้อมูลและทำความเข้าใจว่าลูกค้าของเราเป็นใคร ชอบอะไร นำเสนอสิ่งที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม

หาวิธีสร้างความประทับใจให้ลูกค้าแบบใหม่ๆ และให้บริการด้วยความเต็มใจและเป็นกันเองเสมอ

5. ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วย

เทคโนโลยีใหม่ๆ มีส่วนสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า ควรพิจารณาใช้ ระบบแชทสด (Live Chat) แอปพูดคุยกับลูกค้า ระบบโซเชียลมีเดียที่ทำให้การจองง่ายขึ้น

เทคโนโลยีอื่นๆ ที่ช่วยให้ประสบการณ์การจองดีขึ้น

6. สร้างรายได้เพิ่มจากบริการเสริม

การนำเสนอบริการหรือสินค้าเสริมให้ลูกค้าเลือกในระบบจอง เหมือนการช็อปปิ้งออนไลน์ เป็นกลยุทธ์ที่ดี แม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้ซื้อบริการเสริมเลยก็ตาม

การมีตัวเลือกเสริมช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพและความน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังทำให้โรงแรมของคุณแข่งขันกับ OTA ได้ เพราะ OTA มักจะมีแพ็กเกจให้ลูกค้าเลือกเช่นกัน

สิ่งสำคัญคือต้องมองว่าโรงแรมของคุณไม่ได้ขายแค่ห้องพักและเตียงนอน การเพิ่มบริการเสริมต่างๆ จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าพักของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น

7. สร้างแบรนด์โรงแรมให้เป็นที่จดจำ

วิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มการจองห้องพักโดยตรง คือการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำและเปลี่ยนนักท่องเที่ยวที่มาพักครั้งแรกให้กลายเป็นลูกค้าประจำ

การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมีข้อดีหลายอย่าง:

  • รู้ใจลูกค้ามากขึ้น: เมื่อเข้าใจความชอบและความต้องการของลูกค้า ทางโรงแรมก็สามารถจัดเตรียมบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกได้ตรงความต้องการมากขึ้น
  • มีช่องทางรับจองที่หลากหลาย: การมีหลายช่องทางในการรับจองช่วยให้ธุรกิจมั่นคง ไม่ต้องพึ่งพาเฉพาะช่องทางใดช่องทางหนึ่ง
  • มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น: การมีกลุ่มลูกค้าประจำจำนวนมากช่วยให้โรงแรมรับมือกับช่วงโลว์ซีซั่นหรือช่วงเศรษฐกิจไม่ดีได้

8. สร้างคอนเทนต์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

แทนที่จะพยายามเข้าถึงทุกกลุ่ม ให้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มที่มีโอกาสมาใช้บริการจริงๆ และสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์พวกเขา

9. ทำการตลาดผ่านอีเมลให้ได้ผล

การส่งอีเมลยังเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการกระตุ้นการจองห้องพักโดยตรง ลองทำตามวิธีนี้ดู ชวนให้คนสมัครรับข่าวสารด้วยการมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น ส่วนลดห้องพัก แพ็กเกจสุดคุ้ม สร้างตัวเลือกให้สมัครรับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม  ตั้งระบบตอบกลับอีเมลอัตโนมัติเพื่อส่งข้อมูลสำคัญให้ลูกค้าทันที

เขียนอีเมลด้วยโทนเป็นกันเอง อบอุ่น เหมือนคุยกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าปัจจุบันหรือลูกค้าที่มีโอกาสมาพัก

10. เพิ่มคนเข้าชมเว็บไซต์ของโรงแรม

การทำให้คนเข้ามาดูเว็บไซต์โรงแรมเป็นเรื่องสำคัญ วิธีที่ได้ผลคือการเขียนเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่างสม่ำเสมอ

เข้าใจวงจรการจองห้องพักโดยตรงกับโรงแรม (booking conversion cycle)

ยุคนี้ที่การจองโรงแรมออนไลน์เป็นเรื่องปกติ โรงแรมต้องพยายามหาวิธีเพิ่มการจองโดยตรงจากลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่ก็ต้องระวังไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับ OTA อย่าง Booking.com หรือ Expedia ที่เปรียบเสมือนทั้งเพื่อนและคู่แข่ง

OTA มีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับโรงแรมที่ใช้ช่องทางนี้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ค่าคอมมิชชั่นที่สูงก็เป็นปัญหาของผู้ประกอบการมาโดยตลอด

การหาจุดสมดุลระหว่างสองช่องทางนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะทางโรงแรมก็ควรพยายามเพิ่มการจองโดยตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

มีหลากหลายวิธีและขั้นตอนในการทำ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เจ้าของโรงแรมลังเลว่าควรเริ่มต้นอย่างไรและใช้วิธีไหนถึงจะได้ผลดีที่สุด

Dean Elphick ได้พูดคุยกับ Scott Petoff ผู้ก่อตั้ง BookingCounts ด้วยประสบการณ์ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ท่องเที่ยวและการวางแผนทริป Scott ได้นำความเชี่ยวชาญมาช่วยผู้ประกอบการโรงแรมอิสระในการพัฒนากลยุทธ์เพิ่มการจองห้องพัก

ด้วยระบบของ BookingCounts โรงแรมสามารถเพิ่มอัตราการเปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บให้กลายเป็นการจองจริง และสร้างโอกาสในการจองทั้งในปัจจุบันและอนาคต

การเปลี่ยนแปลงของการจองโดยตรงและก้าวแรกสำหรับผู้ประกอบการโรงแรม

ธุรกิจโรงแรมพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้และพัฒนาวิธีการรับจองโดยตรง เห็นได้ชัดจากโรงแรมจำนวนมากที่เริ่มใช้ระบบแสดงห้องว่างแบบเรียลไทม์และติดตั้งระบบจองห้องพักในเว็บไซต์ แต่ในขณะเดียวกัน เว็บไซต์จองห้องพักออนไลน์ หรือ OTA (Online Travel Agency) เช่น Agoda, Booking.com ก็มีบทบาทในตลาดการจองโรงแรมมากขึ้นเรื่อยๆ

แนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไป โดย OTA จะพัฒนาระบบใหม่ๆ และสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแกร่ง ในขณะที่โรงแรมที่มีวิสัยทัศน์ก็จะมุ่งเน้นเพิ่มการจองโดยตรง สิ่งที่แนะนำคือโรงแรมควรพัฒนาทั้งสองช่องทาง ทั้งการจองโดยตรงและผ่าน OTA เหมือนกับที่เราต้องทำ SEO ควบคู่กับการดูแลรีวิวบน TripAdvisor

สำหรับการพัฒนากลยุทธ์การจองโดยตรง สิ่งแรกที่ควรทำคือเสริมความแข็งแกร่งด้านการตลาดและขยายฐานลูกค้าที่มีโอกาสจอง วิธีนี้จะช่วยไม่ให้ลูกค้าที่สนใจหลุดไปจองที่อื่น โดยเฉพาะการใช้อีเมลการตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมาย เพื่อติดต่อกับคนที่เข้ามาดูเว็บไซต์แต่ยังไม่พร้อมจอง และกระตุ้นให้พวกเขากลับมาจองในภายหลัง

เข้าใจข้อมูลสำคัญเพื่อวางกลยุทธ์

กลยุทธ์หนึ่งที่น่าสนใจคือการใส่ฟอร์มกรอกอีเมลในหน้าที่คนมักออกจากเว็บ (Exit Pages) ซึ่งเราดูได้จาก Google Analytics ว่าหน้าไหนที่คนมักดูเป็นหน้าสุดท้ายก่อนออกจากเว็บ เมื่อใส่ฟอร์มหรือป๊อปอัพ โรงแรมสามารถส่งข้อมูลและลิงก์จองห้องพักโดยตรงให้ลูกค้าทันที เผื่อเขาพร้อมจองในภายหลัง

การเข้าใจและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เราต้องรู้ว่าลูกค้าค้นหาโรงแรมที่จะเข้าพักอย่างไร ชอบใช้เว็บไซต์จองเที่ยวอะไร และมีขั้นตอนการตัดสินใจจองอย่างไร ข้อมูลเหล่านี้ได้จากการวิเคราะห์การจอง สถิติผู้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลแนวโน้มตลาดโรงแรม และผลสำรวจความคิดเห็นจากลูกค้าที่เคยมาพัก

การสร้างคอนเทนต์เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเขียนบล็อกเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีสำหรับโรงแรมทุกขนาด แนะนำให้ติดตามบล็อกท่องเที่ยวที่เขียนถึงสถานที่หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ ผ่านอีเมลและโซเชียลมีเดีย การเริ่มเขียนบล็อกเองก็เป็นประโยชน์ เพราะทำให้โรงแรมกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ ตอบคำถามยอดนิยมของนักวางแผนทริป และดึงดูดคนที่สนใจจริงๆ ผ่านโซเชียลมีเดีย

การจองโดยตรงเทียบกับการจองผ่าน OTA

ทำไมการจองผ่าน Expedia ถึงดูเหมือนถูกกว่าการจองโดยตรง? คำตอบคือ อาจไม่ได้ถูกกว่าจริง แต่เดิมนักท่องเที่ยวมักจองที่พักและเที่ยวบินผ่านเว็บไซต์อย่าง Expedia เพราะราคาดูเหมือนจะถูกกว่า

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวมักได้ราคาพอๆกันหรือดีกว่าเมื่อจองโดยตรงกับโรงแรม นอกจากนี้ยังได้สิทธิประโยชน์พิเศษและบริการที่ดีกว่า ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญให้ลูกค้าเลือกจองห้องพักโดยตรง

การจองตรงกับโรงแรมเปิดโอกาสให้คุณได้อัพเกรดห้องพักฟรี พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษที่หาไม่ได้จากช่องทางอื่น

หากมีปัญหาเรื่องการจอง โรงแรมสามารถช่วยแก้ไขได้รวดเร็วกว่าการจองผ่านตัวแทน และลูกค้าสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ง่าย

สิ่งสำคัญคือต้องสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจว่า การจองโดยตรงนั้นเป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่แค่ผลกำไรของโรงแรมเท่านั้น

ต้นทุนการจองโดยตรงของโรงแรมคือเท่าไหร่?

เมื่อมองผิวเผิน ต้นทุนการได้ลูกค้าจากการจองโดยตรงจะต่ำกว่าการจองผ่าน OTA เพราะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น

อย่างไรก็ตาม หากไม่ระมัดระวัง การจองโดยตรงอาจมีต้นทุนสูงเกินไปได้

คุณต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการดึงดูดลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ เช่น:

  • การตลาดบนเว็บค้นหา (SEM)
  • เว็บเปรียบเทียบราคา (Metasearch)
  • โซเชียลมีเดีย
  • โฆษณาแบนเนอร์
  • ค่าพัฒนาเว็บไซต์

นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาผลกำไรที่เสียไปจากโปรโมชั่น แพ็คเกจ หรือสิ่งจูงใจต่างๆ ที่ใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ก็มีหลายวิธีที่จะช่วยควบคุมต้นทุนให้ต่ำที่สุด

วิธีที่ได้ผลคือการวางกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน สร้างข้อเสนอที่ตรงใจ และนำเสนอความคุ้มค่าให้ลูกค้าเห็น ทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการจองห้องพัก

อีกวิธีที่จะช่วยเพิ่มอัตราการจองคือ ทำให้ลูกค้าค้นหาและจองห้องพักกับโรงแรมได้ง่ายที่สุด

วิธีเพิ่มการจองห้องพักโดยตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรม

ไม่ว่าลูกค้าจะกำลังมองหาข้อมูลแบบไหน ถ้าลูกค้าหาข้อมูลนั้นได้จากเว็บไซต์โรงแรมคุณ โอกาสที่จะจองห้องพักกับคุณก็จะสูงขึ้น ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?

เพราะการมีข้อมูลที่ดีและครบถ้วนบนเว็บไซต์จะช่วยให้โรงแรมคุณเป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือในพื้นที่ และอยู่ในใจลูกค้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโรงแรมคุณเข้าใจและติดตามความเคลื่อนไหวในท้องถิ่นนั้นๆเป็นอย่างดี

การเป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับนักท่องเที่ยวจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์โรงแรมของคุณ

ในแง่ของจิตวิทยาการท่องเว็บ การมีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจำนวนมากบนเว็บไซต์จะทำให้ผู้เข้าชมใช้เวลาอยู่บนเว็บนานขึ้น ซึ่งเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะทำธุรกรรมและจองห้องพักกับคุณ

หนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของเว็บไซต์คือระยะเวลาที่ผู้ใช้อยู่บนเว็บ หรือที่เรียกว่า “ระยะเวลาการเข้าชม”

สิ่งนี้ส่งผลดีต่อการทำ SEO – ยิ่งคนใช้เวลาบนเว็บคุณนานเท่าไหร่ อันดับของเว็บคุณใน Google ก็จะยิ่งสูงขึ้นเมื่อคนค้นหาคำว่า “โรงแรมในกรุงเทพ” เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อเพิ่มจำนวนแขกที่พบโรงแรมคุณผ่าน Google คุณต้องทำให้พวกเขาอยู่บนเว็บไซต์ให้นานที่สุด

ระยะเวลาการเข้าชมขึ้นอยู่กับการมีคอนเทนต์ที่ดีและน่าสนใจ นี่คือ 3 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มระยะเวลาการเข้าชม:

1. คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ

คอนเทนต์ที่มีคุณภาพไม่ได้หมายถึงแค่การเขียนให้อ่านง่าย หรือไม่มีคำผิด แต่ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์กับธุรกิจโรงแรมด้วย

ยกตัวอย่างเช่น การแนะนำร้านอาหารอร่อยๆ แหล่งช้อปปิ้ง หรือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้โรงแรม ถือเป็นคอนเทนต์ที่ดีและตรงใจนักท่องเที่ยว แต่ถ้าเขียนเรื่องไกลตัวที่ไม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวหรือบริการของโรงแรม อย่างเช่น ประวัติภาพยนตร์เก่า ก็จะไม่ช่วยดึงดูดลูกค้า (เว้นแต่โรงแรมคุณอยู่ใกล้โรงหนังที่จัดฉายหนังคลาสสิก ก็อาจจะเขียนถึงได้)

2. แบ่งบทความเป็นหลายหน้า

แทนที่จะเขียนทุกอย่างในหน้าเดียว ให้แบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น:

  • ร้านอาหารแนะนำ
  • กิจกรรมผ่อนคลายในเมือง
  • สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

วิธีนี้จะทำให้ผู้เข้าชมคลิกดูหลายหน้า อ่านเนื้อหามากขึ้น และอยู่บนเว็บนานขึ้น

3. ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์

สร้างพื้นที่บนเว็บไซต์สำหรับธุรกิจในพื้นที่มาแชร์เมนูอาหาร รูปภาพ เวลาทำการ เพื่อให้เว็บคุณเป็นศูนย์รวมข้อมูลที่มีประโยชน์ ซึ่งจะดึงดูดให้คนเข้ามาค้นหาข้อมูลบ่อยขึ้นและใช้เวลานานขึ้น

การเพิ่มระยะเวลาที่ผู้ใช้อยู่บนเว็บไซต์เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างความประทับใจ ทำให้โรงแรมคุณติดอันดับใน Google สูงขึ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาจองห้องพักโดยตรงกับคุณ

เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเพิ่มการจองห้องพักโดยตรงได้อย่างไร

ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มการจองตรงและยกระดับประสบการณ์ของแขกที่เข้าพัก การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของผู้บริโภคและการปรับใช้กลยุทธ์ดิจิทัลของธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

จากสถิติพบว่า 76% ของการจองที่พักผ่านช่องทางออนไลน์ และพฤติกรรมนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มคนรุ่นใหม่อีกต่อไป ผลการศึกษาของ Deloitte ชี้ว่า 78% ของกลุ่มคนที่ไม่ใช่มิลเลนเนียลใช้อุปกรณ์ดิจิทัล 2-3 ครั้งระหว่างการตัดสินใจซื้อสินค้า

เทคโนโลยีที่มีบทบาทในปัจจุบัน ทั้งโซเชียลมีเดีย มือถือ คลาวด์ และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจโรงแรมที่ต้องการเพิ่มการจองตรงและทำให้ขั้นตอนการจองง่ายขึ้น

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่ลูกค้าก็ยังต้องการความเป็นกันเอง อยากรู้สึกว่าโรงแรมเข้าใจพวกเขา และได้รับบริการที่อบอุ่น นอกเหนือจากความสะดวกรวดเร็วที่เทคโนโลยีมอบให้

การสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับลูกค้าคือข้อได้เปรียบในการแข่งขัน แม้ว่าการบริการแบบตัวต่อตัวอาจลดลงในยุคดิจิทัล แต่เทคโนโลยีก็ช่วยให้คุณสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ข้อดีของเทคโนโลยีสมัยใหม่คือ ช่วยให้เราเข้าถึงและเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้ลึกซึ้งขึ้น เมื่อเราติดตามว่าลูกค้าใช้งานเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นอย่างไร ก็จะยิ่งเข้าใจความต้องการและคาดเดาได้ว่าพวกเขาสนใจอะไร

ข้อมูลเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าคุณต้องนำเสนอข้อมูลที่ตรงใจในเวลาที่เหมาะสม การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าจะช่วยให้คุณมอบบริการได้ตรงใจลูกค้าแต่ละคนและเพิ่มโอกาสการจองตรงได้มากขึ้น

ความสำคัญของเทคโนโลยีในการเพิ่มการจองตรง

เมื่อคุณหาลูกค้าที่ใช่และดึงดูดให้เข้ามาที่เว็บไซต์ได้แล้ว เทคโนโลยีและบริการของคุณต้องได้มาตรฐานสูง สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงมีดังนี้:

  • ทุกขั้นตอนการจองต้องใช้งานง่าย: โรงแรมควรมีระบบจองห้องพักออนไลน์ที่ดี ให้ลูกค้าจองได้เสร็จภายใน 2 ขั้นตอน ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
  • เว็บไซต์ต้องเปิดบนมือถือได้ดี: ถ้าต้องการเพิ่มยอดจอง สิ่งแรกที่ต้องทำคือปรับเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนมือถือ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จองผ่านมือถือ
  • เชื่อมต่อระบบจองเข้ากับเว็บไซต์: เมื่อระบบจองและเว็บไซต์ทำงานร่วมกัน จะช่วยให้ลูกค้าจองห้องพักได้ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการจัดการของพนักงาน
  • ใช้ระบบจัดการช่องทางขาย (channel manager): ระบบนี้จะช่วยให้คุณจัดการการจองตรงได้เหมือนกับการจองผ่าน OTA ระบบจะอัปเดตจำนวนห้องว่างอัตโนมัติเมื่อมีการจอง และคุณสามารถดูรายงานว่าการจองตรงสร้างรายได้ให้โรงแรมเท่าไหร่
โดย Dean Elphick

ดีนคือผู้เชี่ยวชาญการตลาดเนื้อหาซีเนียร์ของ SiteMinder, ผู้ให้บริการเทคโนโลยีชั้นนำที่ส่งผลกำไรที่ไม่เคยมีให้แก่เจ้าของโรงแรม. ดีนมีความสนใจในการเขียนและสร้างเนื้อหามาเป็นที่รักในชีวิตอาชีพของเขาทั้งหมด, ซึ่งรวมถึงมากกว่าหกปีที่ SiteMinder. ผ่านทางเนื้อหา, ดีนมีเป้าหมายที่จะให้การศึกษา, แรงบันดาลใจ, ความช่วยเหลือ และค่าความพิเศษให้แก่ธุรกิจที่ให้บริการที่ต้องการปรับปรุงวิธีการทำงานและบรรลุเป้าหมายของพวกเขา.

 

Thanks for sharing

Sign up to our blog and receive regular updates on the content you're into

Send this to a friend